เผยเหตุผลที่ทำให้หลายคน ไม่กล้าก้าวออกจากความสัมพันธ์ที่ไม่ลงตัว

0
1574

การตัดขาดหรือตัดใจจากใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะคนที่เคยรัก หลายคนจึงเลือกที่จะทนอยู่กับความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ ถึงแม้ว่าจะทำให้รู้สึกไม่มีความสุขทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ แต่การก้าวออกไปก็เป็นเรื่องยากเช่นกัน

การทนอยู่กับความสัมพันธ์ที่เป็นพิษอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่มันก็เป็นเรื่องที่พบเจอได้บ่อยครั้ง เพราะมีหลายสาเหตุที่ทำให้คนเราไม่สามารถตัดขาดจากใครบางคนได้ตามใจต้องการ อย่างเช่น 5 เหตุผลต่อไปนี้

เกิดจากการกลัวความเหงา การกลัวความเหงาทำให้หลายคนเลือกที่จะทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ เพราะคิดว่ามีคู่ที่ไม่ดีก็ยังดีกว่าไม่มีคู่เลย เนื่องจากสังคมมักจะมองความโสดหรือการอยู่เป็นโสดในแง่ลบ ทั้งที่ความจริงแล้วความโสดหรือความเหงาก็ไม่ได้แย่เสมอไป และการอยู่คนเดียวอย่างมีความสุขก็ดีกว่าการมีคู่แต่ไม่มีความสุขเลย

เกิดจากความไม่มั่นใจในตนเอง จากการศึกษาวิจัยพบว่าคนที่ไม่มั่นใจในตนเองมักมีโอกาสที่จะทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นพิษมากกว่าคนที่มีความมั่นใจ เพราะหลังจากถูกทำร้ายหรือเอาเปรียบจนเคยชินแล้ว คนที่ไม่มีความมั่นใจก็จะคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดของตนเอง และยังมองไม่เห็นคุณค่าในตนเองจนทำให้ไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลย

เกิดจากความรู้สึกผิดเพราะคิดว่าการกระทำของอีกฝ่ายเป็นความรับผิดชอบของตน ฝ่ายที่เป็นผู้กระทำที่คอยเอารัดเอาเปรียบคู่ของตนเองมักจะมีวิธีโยนความผิดไปให้กับอีกฝ่ายเสมอ วิธีการนี้เรียกว่า Gaslighting เป็นการหลอกลวงหรือปั่นหัวให้อีกฝ่ายคิดว่าตนเองนั้นเป็นคนผิด เป็นคนไม่เก่ง ไม่ดี และไม่มีคุณค่าอะไรเลย

เกิดจากการเชื่อว่าสิ่งต่างๆ อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ หลายคนทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นพิษเพราะรักแฟนหรือคู่รักของตนเองมาก และเชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาหรือเธอจะเปลี่ยนแปลง โดยอาจจะคิดว่าที่อีกฝ่ายทำตัวไม่ดีเพราะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ถ้าอะไรๆ ดีขึ้นความสัมพันธ์ก็อาจจะดีขึ้นตามไปด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย

เกิดจากการกลัวการถูกปฏิเสธ บางคนทนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นพิษเพราะกลัวว่าในอนาคตอาจจะถูกปฏิเสธได้ ดังนั้นจึงเลือกที่จะทนอยู่กับคนปัจจุบันดีกว่า นอกจากนี้คนที่กลัวการถูกปฏิเสธยังไม่กล้าที่จะเปิดเผยความคิดและความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองออกมา และไม่กล้าที่จะยืนหยัดเพื่อตนเองเพราะกลัวว่าจะถูกปฏิเสธด้วย

ที่มา: brightside