เราทุกคนต่างปราถนาที่จะได้พบกับความรักที่ดีในชีวิต แต่ในโลกความเป็นจริงนั้น เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายรักในตัวเราอย่างจริงใจหรือพวกเขากำลังแสวงหาผลประโยชน์ใดอยู่เบื้องหลังหรือไม่
ซึ่งเรื่องทำนองนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในละคร หากแต่เกิดในชีวิตจริงมากมายหลายกรณี แต่มีเคสหนึ่งที่โด่งดังเป็นตำนานถึงขนาดถูกนำมาถ่ายทำเป็นสารคดีลงในบน Netflix ภายใต้ชื่อ “Tinder Swindler” ที่อิงมาจากชีวิตจริงของพ่อหนุ่มยอดนักรักตัวแสบ Simon Leviev
Simon Leviev นั้นเป็นหนุ่มจากอิสราเอลอายุ 30 ปี และเค้ามีเทคนิคกับเสน่ห์เหลือล้น จนสามารถมัดใจสาวที่พบบนแอพอย่าง Tinderได้อย่างมากมาย ประเด็นคือเขาไม่ได้แสวงหาแค่ความรัก หากแต่เค้าคือนักต้มตุ๋นตัวพ่อ โดยเขาอ้างตัวเองว่าตนนั้นเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีค้าเพชร
ซึ่งหลังจากเค้าสามาถลวงจนได้ความเชื่อใจจากผู้หญิงที่คุยอยู่ เค้าก็เริ่มจะกล่อมให้พวกเธอเหล่านั้นโอนเงินมาให้ และปริมาณเงินที่ว่านี้ไม่ใช่จำนวนน้อยๆแต่ประเมินคร่าวๆสูงถึง 7,400,000 ปอนด์ (ราว 328,486,583 ล้านบาท)
เรียกได้ว่าเค้าคือตำนานที่ไล่ตระเวนไปในทุกแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการตามหาเนื้อคู่หรือความรัก อย่างไรก็ตามแน่นอนว่ามีสาวจำนวนมากที่ไม่อาจทนความปวดร้าวนั้นไหว และได้แจ้งจับพ่อหนุ่มคนนี้ ซึ่งเขาได้พยายามหลบหนีตลอดหลายปี
แต่สุดท้ายเค้าได้ถูกจับในปี 2019 หลังจากใช้พาสปอร์ตปลอมในประเทศกรีซ แต่ทั้งนี้เค้าก็ถูกลงโทษจากคำสั่งศาลให้ถูกคุมขังเป็นเวลาเพียง 15 เดือนเท่านั้นเรียกได้ว่าเค้าคือยอดนักรักตัวแสบของจริง และเงินที่หามาได้ เค้าก็ใช้ซื้อข้าวของหรูๆ รถหรูมาเพื่อความสุขของตนเอง
ส่วนปัจจุบันทางด้านแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการตามหาคู่รักทุกชนิด ได้มีนโยบายแบนนาย Simon Leviev แบบถาวรเป็นที่เรียบร้อย แต่จากวีรกรรมทั้งหมดของเขา ก็ยากจะตอบได้ว่าผู้ชายรายนี้จะสรรหาวิธีใดมาต้มหัวใจใครอีกหรือไม่ ฉะนั้นก่อนจะรักใคร คิดให้รอบด้านเสมอนะ เพราะเราคาดเดาไม่ได้จริงๆว่าคนตรงหน้าเข้ามาหาเราด้วยเหตุผลอะไร แต่ถ้าหากใช้เวลาศึกษากันแล้วพบว่าเค้ารักเราจริง ก็บอกได้เลยว่าคุณคือคนที่โชคดีมากคนหนึ่งของโลก
ที่มา: dailymail