เส้นทางโชคชะตาของสการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน ที่ฝ่าฟันมาไกลจนเจิดจรัสในวงการ

0
965

แม้แต่ดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ก็ยังต้องพบเจอกับความยากลำบากในการทำงาน อย่างเช่นการถูกจำกัดภาพลักษณ์ไว้กับบทบาทใดบทบาทหนึ่งเท่านั้น จนทำให้พวกเขาถูกมองข้ามความสามารถที่แท้จริงไปอย่างน่าเสียดาย

เส้นทางการเป็นนักแสดงของ สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน (Scarlett Johansson) หนึ่งในนักแสดงหญิงที่โด่งดังและประสบความสำเร็จมาก แต่กว่าจะมีทุกวันนี้ได้เธอก็ต้องผ่านอะไรมามากมายไม่ต่างจากนักแสดงคนอื่นด้วยเช่นกัน

สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน เป็นนักแสดงชาวอเมริกัน-เดนมาร์ก สัญชาติเดนมาร์ก พ่อของเธอเป็นสถาปนิก คุณปู่ของเธอเป็นนักเขียนบท ส่วนตัวเธอนั้นเข้าวงการตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และได้รับบทใหญ่ครั้งแรกตอนอายุ 11 ขวบ

ผลงานเรื่องแรกของเธอเป็นเพียงบทเล็กๆ ในโทรทัศน์ หลังจากนั้น 3 ปีเธอก็ได้แสดงภาพยนตร์ร่วมกับ Sean Connery ในเรื่อง Just Cause และอีก 3 ปีต่อมาก็ได้รับบทใน The Horse Whisperer และมีชื่อเสียงโด่งดัง

ในช่วงปี 2003-2008 เธอเป็นที่รู้จักจากภาพลักษณ์สาวสวยผมบลอนด์ เธอมีผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่อง Lost in Translation และ Girl with a Pearl Earring ที่ทำให้ถูกจดจำในฐานะนักแสดงโดดเด่นด้านความสวย

เธอได้รับบทในภาพยนตร์ของผู้กำกับ Woody Allen ถึง 3 เรื่อง ได้แก่ Match Point, Scoop และ Vicky Cristina Barcelona และกลายเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงหญิงที่สวยและมีเสน่ห์ดึงดูดมากที่สุดคนหนึ่งเลย

ในเวลาเดียวกันนั้นเองเธอก็เริ่มหันไปเป็นนักร้อง เธอปล่อยอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า Anywhere I Lay My Head และเป็นผู้กำกับภาพยนตร์สั้นเรื่อง These Vagabond Shoes หลังจากรับบทในภาพยนตร์เรื่อง The Black Dahlia และ The Prestige เธอก็เบื่อที่จะรับบทเป็นสาวสวย เพราะอยากรับบทบาทอื่นที่แตกต่างไปจากเดิมบ้าง แต่สุดท้ายเธอก็ยังไม่ได้รับบทใน The Girl with the Dragon Tattoo เพราะสวยเกินไป

เมื่อมารับบทเป็น Natasha Romanoff ในภาพยนตร์ของมาร์เวล เธอก็ยิ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นไปอีก แต่ขณะเดียวกันเธอก็พยายามรับบทที่ฉีกไปจากแนวเดิมๆ เธอรับบทในภาพยนตร์นอกกระแสอย่างเรื่อง Under the Skin เป็นมนุษย์ต่างดาวที่ไร้ความรู้สึก และภาพลักษณ์ของเธอก็ถูกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในภาพยนตร์เรื่องนี้

แต่ไม่ว่าจะรับบทบาทที่หลากหลายแค่ไหน เธอก็ยังถูกยึดติดอยู่กับภาพลักษณ์ของสาวสวยเช่นเดิม โดยเฉพาะในภาพยนตร์ของมาร์เวล ขณะที่นักแสดงคนอื่นใน Avengers ถูกถามเรื่องตัวละคร เธอกลับถูกถามเรื่องการรักษาหุ่น

2019 ดูเหมือนจะเป็นปีที่ดีที่สุดในอาชีพการงานของ สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน เธอได้รับค่าตัวจากมาร์เวลมากถึง 35 ล้านดอลลาร์หรือราว 1,200 ล้านบาท ได้รับบทใน Marriage Story ที่ทำให้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ และรับบทในภาพยนตร์เรื่อง Jojo Rabbit ที่ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เช่นกัน

เธอเป็นนักแสดงหญิงที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุดในช่วงปี 2010s และมีภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เป็นของตัวเองอย่าง Black Widow ที่นอกจากเธอจะเป็นตัวเอกของภาพยนตร์ ก็ยังทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์เองด้วย

นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเพลง Before My Time เธอเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ Katy Perry แต่งเพลง I Kissed a Girl และเธอก็ยังเปิดร้านป๊อปคอร์นในปารีสชื่อว่าร้าน Yummy Pop

สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน บริจาคเงินหลายล้านเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลเด็ก รวมไปถึงมูลนิธิและองค์กรอื่นอีกมากมาย ในปี 2015 หลังจากลูกสาวของเพิ่งคลอด เธอพกเครื่องปั๊มนมไปร่วมงานประกาศรางวัลออสการ์ เธอบอกว่านมแม่นั้นมีคุณค่าดั่งทองสำหรับลูก นอกจากนี้เธอยังเป็นคนรักสัตว์ และมีสุนัข 2 ตัวชื่อ Maggie และ Pancake

ที่มา: brightside