13 ความจริงเกี่ยวกับพินอคคิโอ ที่ช่วยเปิดมุมมองอีกด้านให้กับเรา

0
719

พินอคคิโอเป็นหนึ่งในการ์ตูนขวัญใจเด็กๆ ทั่วโลก ที่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ต้องเคยดูหรือเห็นผ่านตากันมาบ้างสักครั้ง แต่ถึงแม้จะเป็นการ์ตูนที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกันดี ก็ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่คนส่วนใหญ่อาจไม่เคยรู้มาก่อน

13 ความจริงน่าสนใจเกี่ยวกับ พินอคคิโอ (Pinocchio) ภาพยนตร์แอนิเมชันที่เด็กๆ และผู้ใหญ่ทั่วโลกชื่นชอบ ถึงแม้ทุกคนจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่คนส่วนใหญ่อาจไม่ทราบ

Mary Walsh ผู้มีตำแหน่งเป็น Managing Director ให้สัมภาษณ์ว่ากว่าจะออกมาเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันในปี 1940 ทีมงานต้องใช้เวลานานกว่า 3-5 ปีในการวาดภาพและทำงานต่างๆ โดยใช้ศิลปินกว่า 700-800 คน

ในตอนแรก เจมินี คริกเก็ต (Jiminy Cricket) ไม่ได้เป็นผู้บรรยายเรื่องราวของพินอคคิโอ แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนในภายหลัง จนทำให้ต้องตัดหลายอย่างออกไป และสิ่งที่ตัดออกไปก็อาจจะนำไปสร้างเรื่องใหม่ได้ 3-4 เรื่องเลย

Pleasure Island ไม่ได้ใช้ชื่อนี้แต่แรก แต่มีการลังเลระหว่าง Bogeyland กับ Sillyland นอกจากนี้ก็ยังไม่ได้เป็นสถานที่ที่มีแต่ความสนุก ถ้าทำผิดก็มีการลงโทษที่น่ากลัว เพราะดิสนีย์เชื่อว่าการ์ตูนไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อเด็กเท่านั้น

พินอคคิโอตามต้นฉบับดั้งเดิมไม่ได้เป็นตัวละครที่น่ารักเท่าไหร่ และตอนแรกดิสนีย์ก็ไม่ได้ทำให้ออกมาน่ารักหรือนิสัยดีเช่นกัน แต่เมื่อทำไปแล้วก็รู้สึกว่าตัวละครไม่มีเสน่ห์และไม่น่าสนใจ จึงทำให้ดูใสซื่อและน่ารักมากขึ้น

ตอนแรกเด็กๆ นั้นร้องเพลง Three Cheers for Anything ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการกระทำดื้อๆ ระหว่างการเดินทางไปยัง Pleasure Island แต่พวกเขารู้สึกว่าทำให้การเดินทางนั้นยาวนานเกินไปจึงตัดออก

เหล่าทีมงานต้องสร้างนาฬิกาจริงๆ ขึ้นมาให้ วอลต์ ดิสนีย์ ดูก่อนที่จะนำไปใส่ในฉากที่ร้านของ Gepetto เพราะบางครั้งเขาก็ไม่เห็นด้วยกับงานที่ออกมา จึงต้องทำขึ้นมาให้เขาเห็นว่ามันสามารถใช้ได้จริง

ฉากที่พินอคคิโอลงไปอยู่ใต้น้ำต้องผ่านการทำงานหลายขั้นตอนมาก เพื่อให้ออกมาสวยงามและสมจริงมากที่สุด ต้องมีการใช้แสงและกระดาษสีต่างๆ กันมาทำเป็นน้ำที่มีฟองคลื่นจนออกมาเป็นฉากที่สมบูรณ์

เมื่อ Gepett และเจ้าเหมียว Figaro ออกไปในน้ำ พวกเขาหิวมากจนคิดที่จะกินเจ้าปลา Cleo เป็นอาหาร แต่ก็ถูกตัดออกไปจนเหลือแค่ตอนที่พวกเขาพูดว่าหิว และสุดท้ายก็ถูกนำไปใส่ในการ์ตูนสั้นเรื่อง Figaro and Cleo

เนื่องจากภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้มีอายุเก่าแก่มาก บางฉากที่ดูเหมือนจะง่ายก็ถ่ายทำด้วยความยากลำบาก อย่างเช่นฉากที่โชว์ภาพเมืองจากมุมสูง ที่ต้องมีการคิดค้นเทคนิคใหม่ๆ ขึ้นมาช่วยเพราะอุปกรณ์ที่มีไม่สามารถทำได้

อีกสิ่งหนึ่งที่ถูกตัดออกไปคือเพลงที่มีชื่อว่า Straight Ahead ที่ร้องโดย Blue Fairy ที่พินอคคิโอรับฟังและทำตาม เป็นการบอกให้มุ่งไปหาเป้าหมายโดยไม่สนใจสิ่งอื่น แต่สุดท้ายเพลงนี้ก็ถูกตัดออกไป

ฉากที่ Gepetto บอกพินอคคิโอถึงต้นตระกูลที่แท้จริงของเขาก็ถูกตัดออกไปเช่นกัน ต้นตระกูลของพินอคคิโอก็คือต้นสนที่ถูกตัดมาทำเป็นตุ๊กตา และจะมีฉากที่พินอคคิโอจินตนาการไปด้วยระหว่างฟังที่ Gepetto เล่า

แม้ว่าภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องพินอคคิโอจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในภายหลัง แต่ในขณะนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ขาดทุน ไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนกับสโนว์ไวท์ จึงส่งผลต่องบประมาณของเรื่องต่อไปอย่างดัมโบ้

วอลต์ ดิสนีย์ มีส่วนร่วมไปทุกขั้นตอนของการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้ และทุกอย่างต้องผ่านความเห็นชอบจากเขาเสียก่อน สิ่งที่พนักงานไม่อยากเห็นก็คือการที่เขาเลิกคิ้วและใช้นิ้วเคาะเก้าอี้อย่างไม่เห็นด้วย

ที่มา: bustle