รูปแบบของความสัมพันธ์ ที่อาจทำร้ายทุกคนในครอบครัวอยู่อย่างไม่รู้ตัว

0
1166

การรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ราบรื่นและสงบสุขตลอดเวลานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนในครอบครัว ยังต้องใช้ความอดทน ความเข้าใจ และเห็นอกเห็นใจกันเป็นสิ่งสำคัญด้วย

ประเภทของความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ข้อใดข้อหนึ่งอาจตรงกับครอบครัวของเรา แต่เราอาจไม่รู้ตัวเลยว่าความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้คือสิ่งที่คอยทำร้ายทุกคนในครอบครัวอยู่ และควรที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่วันนี้

ความสัมพันธ์ที่พ่อและแม่นั้นเป็นฝ่ายควบคุมและลูกๆ อยู่ในโอวาท แต่กลับมีพ่อหรือแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เป็นผู้นำอย่างแท้จริง ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งนั้นใจอ่อนกว่า จึงอาจทำให้ลูกๆ มองเห็นโอกาสและเข้าทางพ่อแม่ที่ใจอ่อนแทน

ความสัมพันธ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดูแลลูกเพียงฝ่ายเดียว แต่อีกฝ่ายอาจต้องทำงานหรือแยกกันอยู่ แล้วฝ่ายที่ดูแลลูกนั้นเอาความลับหรือปัญหาระหว่างพ่อแม่มาปรึกษาพูดคุยกับลูก จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างลูกและอีกฝ่ายหนึ่งที่ไม่ได้สนิทกับลูกมากเท่าไหร่นั้นต้องห่างเหินกันไปด้วย

ความสัมพันธ์ที่พ่อหรือแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้นเป็นใหญ่ แต่อีกฝ่ายตกเป็นเหยื่อที่อ่อนแอกว่า และฝ่ายที่เป็นใหญ่นั้นก็ชักจูงให้ลูกๆ บีบบังคับหรือทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย และอาจทำให้ลูกๆ ไม่มีความเคารพในตัวอีกฝ่าย

ความสัมพันธ์ที่ลูกเป็นใหญ่ แต่พ่อแม่กลายเป็นเหยื่อเสียเอง หรือการเลี้ยงแบบสปอยล์ลูก ที่ทำให้เด็กๆ เติบโตขึ้นมาเป็นคนที่นิสัยไม่ดี ก้าวร้าว ไม่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น จนอาจกลายเป็นปัญหาได้ในอนาคต

ความสัมพันธ์แบบพ่อแม่และลูกนั้นเป็นเหมือนศัตรูกัน โดยอาจเกิดจากความห่างเหิน ความไม่เข้าใจ หรือความต่างของวัยที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่เข้าใจกัน ซึ่งครอบครัวนั้นไม่ควรเป็นศัตรูแต่ควรเป็นทีมเดียวกัน

ความสัมพันธ์ที่สมาชิกคนใดคนหนึ่งในครอบครัวถูกทิ้งให้อ้างว้าง เดียวดาย จนต้องแยกตัวออกไปลำพัง รู้สึกเหมือนเป็นแกะดำในฝูง จนท้ายที่สุดแล้วครอบครัวก็อาจเกิดความแตกแยกและห่างเหินกันไปในที่สุด

ที่มา: brightside