เราไม่สามารถดูแลชีวิตตัวเองให้ปลอดภัยหายห่วงได้ทั้งหมด 100% เพราะอุบัติเหตุและเรื่องไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือหมั่นหาความรู้และศึกษาวิธีการเอาตัวรอดจากสถานการณ์เสี่ยง
ปัจจุบันลิฟต์กลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความสำคัญต่อชีวิตของผู้คนในเมืองใหญ่ เพราะทุกอาคารที่มีความสูงอย่างน้อย 4-5 ชั้นขึ้นไปต่างก็หันมาใช้ลิฟต์กันหมด และถึงแม้จะมีความปลอดภัยค่อนข้างมาก แต่บางครั้งก็ยังเกิดเหตุลิฟต์ค้างหรืออาจถึงขั้นลิฟต์ตกได้อยู่ดี ซึ่งขณะที่เราอยู่ในลิฟต์ที่คับแคบนั้นการเอาตัวรอดเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
นี่คือคำแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรตัวจริง วิธีการเอาตัวรอดเมื่อลิฟต์กำลังตก ซึ่งการยืนอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลยอาจทำให้เราได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ ซึ่งนี่ก็คือวิธีที่จะช่วยให้เราปลอดภัยหรือได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุด
บางคนคิดว่าเมื่อเรากำลังตกจากที่สูง การกระโดดก็อาจช่วยลดแรงปะทะได้ แต่การกระโดดขณะที่เรากำลังตกอย่างอิสระเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก และไม่สามารถควบคุมได้ว่าส่วนใดของร่างกายจะปะทะกับพื้นก่อนจึงอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณอวัยวะสำคัญของร่างกาย หรือตอนที่กระโดดก็อาจจะไปกระแทกกับสิ่งอื่นๆ ในลิฟต์แทน
การยืนอยู่นิ่งๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเช่นเดียวกัน เพราะขณะที่ลิฟต์กำลังตกลงมานั้น ขาของเราจะต้องทนรับแรงกดดันและน้ำหนักจากร่างกายของเราเองที่มากกว่าน้ำหนักปกติถึง 10 เท่าด้วยกัน
ส่วนท่าที่จะทำให้เราปลอดภัยที่สุดในสถานการณ์ที่ลิฟต์กำลังตก ก็คือการนอนหงายลงไปกับพื้น เพราะน้ำหนักของอวัยวะต่างๆ จะถ่ายเทไปทั่วร่างกายและไม่ทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากการกระแทก
หรือถ้าหากว่าในลิฟต์มีผู้โดยสารอยู่หลายคนและไม่สามารถนอนราบลงไปกับพื้นได้ ก็ควรนั่งลงไป หรือถ้ายังมีพื้นที่ไม่พอสำหรับการนั่ง ก็ควรที่จะคุกเข่า เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับแรงกระแทกน้อยกว่าการยืนนั่นเอง
ที่มา: brightside
