สุนัขบางตัวนั้นมีลักษณะนิสัยและพฤติกรรมการแสดงออกที่แตกต่างจากสุนัขทั่วไปมาก เพราะว่าพวกมันนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรู้ที่คอยอยู่เคียงข้างมนุษย์เสมอมา ไม่ว่าจะเป็นเวลากิน เวลานอน หรือแม้กระทั่งเวลาปีนเขาที่สูงชัน
นี่คือเรื่องราวน่าทึ่งและน่าประทับใจที่เกิดขึ้นกับนักปีนเขาชื่อว่า Don Wargowsky ที่ได้เดินทางไปยังประเทศเนปาลเพื่อพิชิตยอดเขาเมราและบารุนท์เซ ทำให้เขาได้พบกับสุนัขตัวหนึ่ง
ในวันที่ 10 ของการเดินทางทั้งหมด 34 วัน ก็มีสุนัขตัวหนึ่งปรากฎกายขึ้นกลางภูเขาที่ความสูงกว่า 18,000 ฟุต มันเป็นสุนัขที่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของมัน จนกระทั่งต่อมามันก็ถูกตั้งชื่อว่า Baru ตามชื่อของภูเขาบารุนท์เซ
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจมากที่เจ้าตูบตัวนี้สามารถปีนขึ้นมาบนยอดเขาสูงชันได้เพียงลำพัง และ Wargowsky ก็จำได้ว่ามันคือสุนัขที่เขาเคยเจอในหมู่บ้านข้างล่าง แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันขึ้นมาบนภูเขาเพราะเหตุใด
เมื่อทีมของ Wargowsky เดินทางต่อ เจ้า Baru ก็ยังมุ่งหน้าปีนขึ้นเขาไปกับพวกเขาด้วย ถึงแม้ว่าทางจะลาดชันและอันตรายมาก แต่เท้าทั้ง 4 ของมันก็ดูคุ้นเคยกับพื้นที่และยังสามารถปีนเขาได้เก่งกว่าทุกคนในทีมด้วยซ้ำไป
Wargowsky บอกว่าตอนที่เห็นมันในหมู่บ้านและช่วงแรกที่ Baru เพิ่งมาเข้าร่วมทีมกับพวกเขานั้น มันยังดูอายๆ และกลัวคนอยู่บ้าง แต่เมื่อผ่านไปสักพักมันก็ดูสดใสร่าเริงและสนุกสนานไปกับการปีนเขามากๆ เลยทีเดียว
ในช่วงที่อากาศหนาวมากๆ Wargowsky เป็นห่วงว่าเจ้าตูบอาจทนไม่ได้ถ้ายังนอนอยู่นอกเต็นท์แบบนี้ แต่ Baru ก็เริ่มไว้ใจเขาและรู้ว่ามันควรทำอย่างไร เพราะมันเข้ามานอนในเต็นท์ของ Wargowsky ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
การเดินทางไปด้วยกันและการแบ่งปันกันทุกๆ อย่างตั้งแต่ที่นอนไปจนถึงของกินทำให้ Wargowsky รู้สึกสนิทสนมกับเจ้า Baru มาก เมื่อพวกเขาเดินทางขึ้นไปถึงยอดเขาและกำลังจะกลับลงมา เขาจึงเริ่มรู้สึกเศร้าและกังวลใจ
Wargowsky อยากพาเจ้า Baru กลับไปด้วย แต่บ้านของเขาก็ไม่ได้มีพื้นที่มากนักจึงอาจทำให้มันรู้สึกอึดอัดได้ เพราะมันเคยมีอิสระในการเดินทางไปทั่วภูเขา จนกระทั่งในที่สุด Wargowsky และ Baru ก็มีทางออกที่ลงตัว
Kaji เป็นผู้จัดการที่ประจำอยู่ที่เบสแคมป์บริเวณด้านล่างของภูเขา ที่รักสัตว์และรู้สึกถูกชะตากับเจ้า Baru เช่นกัน นอกจากนี้บ้านของเขายังอยู่ห่างออกไปไม่มาก และมีพื้นที่มากพอให้ Baru ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขสนุกสนาน
ถึงแม้ว่าการพา Baru ไปที่บ้านของ Kaji จะต้องใช้เงินมาก แต่เขาและ Wargowsky ก็พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้เจ้าตูบแสนรู้ตัวนี้ได้มีบ้านที่อบอุ่นเหมือนสุนัขตัวอื่นๆ
ที่มา: thedodo
