9 เรื่องราวชีวิตจริง เกี่ยวกับนักแสดงตลกระดับตำนาน ชาร์ลี แชปลิน

0
452

ชาร์ลี แชปลิน เป็นนักแสดงตลกชาวสหราชอาณาจักรผู้มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่ง ในยุคต้นถึงยุคกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ของฮอลลีวูด แต่ก็ยังมีความจริงอีกหลายข้อเกี่ยวกับนักแสดงผู้เป็นตำนาน ที่คนส่วนใหญ่อาจไม่เคยรู้มาก่อนเลย

9 ความจริงที่หลายคนอาจไม่เคยทราบเกี่ยวกับ ชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin) หรือเซอร์ชาลส์ สเปนเซอร์ แชปลิน จูเนียร์ นักแสดงชาวสหราชอาณาจักรผู้เป็นตำนาน ทั้งชีวิตส่วนตัวและเรื่องราวของเส้นทางการเป็นนักแสดง

ชาร์ลี แชปลิน ได้ขึ้นเวทีและฉายแววความเป็นนักแสดงตลกครั้งแรกตอนที่เขามีอายุเพียง 5 ขวบ เนื่องจากในขณะนั้นแม่ของเขาไม่สามารถร้องเพลงได้ ผู้จัดการเวทีจึงให้ชาร์ลีขึ้นไปแสดงแทน เขาขึ้นไปร้องเพลง Jack Jones และได้เงินจากผู้ชมมากมาย และทำให้ทุกคนหัวเราะด้วยการประกาศว่าจะขอหยุดพักเพื่อเก็บเงินที่ได้ก่อนจะแสดงต่อ

แม่ของเขาล้มป่วยทำให้สถานะทางการเงินย่ำแย่ เขาและพี่ชายถูกส่งเข้าไปอยู่ในโรงเรียนประจำสำหรับเด็กกำพร้าและเด็กยากจน เขาฝึกอ่านและเขียนและเติบโตขึ้นมาที่นั่นอย่างยากลำบาก ทั้งถูกตีด้วยไม้เรียวและถูกโกนผม หลังจากนั้นไม่นานแม่ของเขาก็ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช ส่วนพ่อของเขาก็เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง

เขาร่วมแสดงกับคณะทัวร์ในปี 1913 และได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในปีต่อมา เขาแต่งเป็นตัวตลกที่สวมเสื้อคับ กางเกงหลวม รองเท้าขนาดใหญ่ สวมหมวกใบจิ๋ว ควงไม้เท้า และติดหนวดแปรงสีฟันเหนือริมฝีปาก แต่ชาร์ลีไม่ปลื้มผลงานการแสดงครั้งแรกของตนเอง และบอกว่าผู้กำกับได้ตัดส่วนที่ดีๆ ออกไปจากภาพยนตร์จนหมด

ตัวละครที่มีชื่อเสียงที่สุดของแชปลินคือคนจรจัด (The Tramp) ที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์หลายเรื่อง แค่ในปี 1914 เพียงปีเดียว The Tramp ก็ปรากฏตัวในภาพยนตร์สั้นหลายสิบเรื่อง และส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เขากำกับด้วยตนเอง

เขาย้ายไปอยู่กับ Essanay Studios โดยได้ค่าตัวสัปดาห์ละ 1,250 ดอลลาร์และโบนัสอีก 10,000 ดอลลาร์ จากนั้นก็ได้รับการยกย่องให้เป็นนักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด ได้เซ็นสัญญากับ Mutual Film Corporation ด้วยค่าตัวปีละ 670,000 ดอลลาร์ และแสดงภาพยนตร์ตลกอีก 8 เรื่องโดยได้รับเงิน 1 ล้านดอลลาร์ จนในปี 1919 เขาก็ได้ก่อตั้งบริษัทเป็นของตัวเองร่วมกับดักลาส แฟร์แบงส์, แมรี พิกฟอร์ด และดี. ดับเบิลยู. กริฟฟิท

เมื่อเริ่มมีการใส่เสียงเข้าไปในภาพยนตร์ ในช่วงแรก ชาร์ลี แชปลิน ยังไม่แน่ใจกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ เขาจึงใส่แค่เสียงดนตรีลงไปในภาพยนตร์เรื่อง City Lights และ Modern Times จนกระทั่งในปี 1940 เขาจึงสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Great Dictator ที่มีการใส่เสียงลงไปอย่างเต็มที่ทั้งดนตรีและเสียงพูดเป็นครั้งแรก

ในปี 1918 เขาแต่งงานกับ มิลเดร็ด แฮร์ริส (Mildred Harris) นักแสดงสาววัย 17 ปี จากนั้นก็หย่าร้างกันและเขาก็แต่งงานอีกครั้งกับ ลิต้า เกรย์ (Lita Grey) ที่ตอนนั้นมีอายุเพียง 16 ปี จนในปี 1943 เขาก็แต่งงานใหม่เป็นครั้งที่ 3 ชาร์ลี แชปลิน ในวัย 54 ปี แต่งงานกับนักแสดงสาว โอน่า โอนีลล์ ที่มีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น

ผลงานบางเรื่องของเขาเช่น The Great Dictator, Monsieur Verdoux ทำให้เขาถูกโจมตีว่าเป็นผู้นิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ เนื่องจากเขามีความคิดทางการเมืองที่ขัดกับรัฐบาล จนเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาถูกสั่งห้ามเข้าอเมริกา

ไม่กี่เดือนหลังจาก ชาร์ลี แชปลิน เสียชีวิต หัวขโมยสองคนได้ขโมยโลงศพของเขาออกไปจากสุสาน และเรียกเงินจากภรรยาของเขามากกว่า 600,000 ดอลลาร์ เมื่อภรรยาของเขาปฏฺิเสธที่จะจ่ายเงินหัวขโมยก็ขู่ว่าจะทำร้ายลูกๆ ของเธอ หลังจากนั้นไม่นานหัวขโมยก็ถูกจับ และสุสานของเขาก็ถูกสร้างใหม่ด้วยคอนกรีตเพื่อป้องกันการถูกขโมย

ที่มา: history