นักแสดงหลายคนแสดงได้อย่างเข้าถึงบทบาท เพราะนอกจากพวกเขาจะมีความสามารถและมีประสบการณ์ในด้านการแสดงมานานหลายปี ก็ยังทำผลงานออกมาได้ดีเพราะมีความทุ่มเทให้กับการเข้าถึงตัวละครในภาพยนตร์มาก
9 เรื่องราวความทุ่มเทในการทำงานของเหล่านักแสดง ที่นอกจากจะมีความสามารถและมีประสบการณ์ในด้านการแสดงแล้ว พวกเขาก็ยังทุ่มเทแรงกายแรงใจในการรับบทเป็นตัวละครต่างๆ จนแสดงออกมาได้อย่างสมจริงแบบนี้
โคลิน เฟิร์ธ (Colin Firth) รับบทเป็นสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ในภาพยนตร์เรื่อง The King’s Speech เขาศึกษาวิธีการพูดจากคลิปต่างๆ จนพูดตะกุกตะกักได้อย่างสมจริง และติดวิธีการพูดแบบนี้ไปจนหลังภาพยนตร์จบเลย
ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) ทุ่มเทให้กับบทบาท Spider-Man มาก และเขาถึงขั้นปลอมตัวกลับไปเข้าเรียนชั้นมัธยมเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เขาปลอมตัวและเปลี่ยนสำเนียงการพูดของตนเองเพื่อไม่ให้นักเรียนคนอื่นจับได้
โจดี ฟอสเตอร์ (Jodie Foster) ได้รับคำแนะนำและได้เข้าร่วมฝึกฝนกับ FBI จริงๆ เพื่อรับบทเป็นตัวละคร Clarice Starling ในภาพยนตร์เรื่อง The Silence of the Lambs
นิค โนลเต้ (Nick Nolte) ใช้ชีวิตเป็นคนไร้บ้านอยู่ในลอสแอนเจลิสเป็นเวลานานถึง 5 สัปดาห์ เพื่อรับบทในภาพยนตร์เรื่อง Down and Out in Beverly Hills จนทำให้เขาได้คำชื่นชมจากนักวิจารณ์มากมาย
เมอรีล สตรีป (Meryl Streep) ไม่พูดคุยกับนักแสดงคนอื่นที่รับบทเป็นลูกน้องของเธอในภาพยนตร์เรื่อง The Devil Wears Prada เพื่อสวมบทบาทเป็นเจ้านายที่เย็นชาและโหดร้ายได้อย่างสมจริง
ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) หรือเดอะร็อก ขอให้ใช้เหล็กจริงๆ ล่ามเขาไว้ในการแสดงภาพยนตร์เรื่อง Hercules จนทำให้เขาเป็นลมหมดสติไปถึง 8 ครั้งในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์
แฮร์ริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) เข้าไปศึกษาการผ่าตัดจริงๆ เพื่อรับบทเป็นหมอในภาพยนตร์เรื่อง The Fugitive และเมื่อได้รับบาดเจ็บก็ยังไม่ยอมทำแผลเพื่อให้แสดงออกมาได้อย่างสมจริงมากที่สุด
เลดีกากา (Lady Gaga) สวมบทบาทเป็นตัวละคร Patrizia Reggiani ในชีวิตจริงเป็นเวลานานกว่า 1 ปีครึ่ง และยังพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอิตาลีนานกว่า 9 เดือนไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างการถ่ายทำหรือไม่ก็ตาม
อลัน ริกแมน (Alan Rickman) สวมบทบาทเป็น เซเวอรัส สเนป ได้อย่างสมจริง เขาพยายามเข้าถึงตัวละครในทุกๆ มิติ และได้ขอให้ทีมงานเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเสื้อผ้าเพื่อให้เข้ากับตัวละครมากขึ้น
ที่มา: brightside
