(500) Days of Summer เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวโรแมนติกคอมเมดี้และดราม่าที่ฉายในปี 2009 เรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มที่เล่าถึงความทรงจำในการผิดหวังต่อความรัก ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
8 ความจริงเบื้องหลังภาพยนตร์ (500) Days of Summer ซัมเมอร์ของฉัน 500 วัน ไม่ลืมเธอ หนึ่งในภาพยนตร์เกี่ยวกับความรักที่ดีและได้รับความนิยมที่สุด ซึ่งเรื่องราวเบื้องหลังก็เต็มไปด้วยความน่าสนใจไม่แพ้เบื้องหน้าเลย
Scott Neustadter ผู้เขียนบทภาพยนตร์ เผยว่า 75% ของเรื่องราวในภาพยนตร์อ้างอิงมาจากประสบการณ์ความรักของเขาเอง กับผู้หญิงที่ชื่อว่า Jenny Beckman ซึ่งเขาได้ส่งบทภาพยนตร์ไปให้เธออ่าน และเธอก็รู้สึกเข้าถึงตัวละคร Tom ได้เป็นอย่างดี แต่น่าแปลกใจที่เธอไม่คิดว่าตนเองคือ Summer เลยแม้แต่น้อย
ผู้กำกับ Marc Webb ได้พบกับ Joseph Gordon-Levitt และอยากให้เขามารับบทเป็น Tom เมื่อถามว่าเขาคิดว่าใครเหมาะกับบท Summer โจเซฟก็ตอบโดยไม่ลังเลเลยว่า Zooey Deschanel
เพลงประกอบภาพยนตร์บอกใบ้ว่าสุดท้ายพระเอกนางเอกไม่ได้ลงเอยกัน โดยเลือกเพลงจากวงที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Simon & Garfunkel, The Smiths, Mumm-Ra และ Hall & Oates
ความจริงแล้วผู้ชมไม่ควรจะเห็นอกเห็นใจหรือเข้าข้าง Tom เรื่องราวของ Tom อาจจะตรงใจใครหลายคน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว แต่โจเซฟขอให้ทุกคนลองพิจารณาดูอีกทีว่าเขามีความเห็นแก่ตัวมาก และยึดติดกับ Summer มากเกินไป ซึ่งหลายคนก็อาจจะเข้าใจเมื่อรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้งตอนที่โตขึ้นกว่าเดิมมากแล้ว
เก้าอี้ที่ Tom และ Summer นั่งชมวิวลอสแอนเจลิสด้วยกันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลังภาพยนตร์ฉาย แต่เก้าอี้นี้ก็หายไปในเดือนกรกฎาคม 2013 ด้วยปัญหาด้านงบประมาณ
ฉากที่ตัวละครหลักทั้งสองต้องแข่งกันตะโกนคำว่า penis ที่มีความหมายไม่สุภาพ ต้องถูกอัดเสียงใหม่เพื่อนำไปใช้ในเวอร์ชั่น DVD สำหรับฉายบนเครื่องบิน โดยถูกเปลี่ยนเป็นคำว่า panda แทน
สีแดงเป็นสีที่ถูกหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการใช้ในภาพยนตร์ เพราะมีการใช้สีฟ้าเพื่อถ่ายทอดถึงเรื่องราวความรัก มีสีแดงปรากฏในภาพยนตร์แค่ 2 ฉาก คือนกกระดาษสีแดงในห้องของ Summer และสีเสื้อของ Autumn ในตอนจบ
ฉากใน IKEA ที่โด่งดังเกือบจะถ่ายทำไม่สำเร็จ ฉากนี้อ้างอิงมาจากประสบการณ์ความรักของ Michael H. Weber หนึ่งในผู้เขียนบทภาพยนตร์ พวกเขาถ่ายทำหลังจาก IKEA ปิดแล้ว แต่เมื่อถ่ายทำเสร็จผู้กำกับก็รู้สึกว่างานที่ออกมายังไม่ดีเท่าไหร่ และเกือบจะไม่นำมาใส่ในภาพยนตร์ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นหนึ่งในฉากที่คนชอบมากที่สุด
ที่มา: nzherald